การเทรดโดยใช้รูปแบบฮาร์โมนิคส์ หรือ ฮาร์โมนิคส์เทรดดิ้ง

Harmonics Trading

วันนี้วันที่ 31 ธันวาคม 2555 นึกว่าทางโบรคเกอร์ไม่เปิด แต่ลองไปเปิดทดลองใส่ pattern harmonics ที่ไปโหลดมาจากอินเตอร์เน็ตเว็บต่างประเทศ แล้วลองเอามาใส่ในกราฟดู สังเกตเห็นกราฟขยับเลยรู้ ว่าวันนี้
ทางโบรคยังเปิดอีกวัน ก็ได้การเลย เลยลองใส่ template harmonics ที่ไปหาโหลดฟรีมา แล้วทดลองเทรดดู ได้ผลตามที่เห็นข้างบนครับ
   สำหรับเรื่องฮาร์โมนิคส์นั้นสามารถหาอ่านได้ตามเว็บต่างๆ ได้คร้บจะมีรูปแบบของมัน หลายอย่างแต่แบบที่หลักๆ ก็มีแบบ Gartley , Butterfly, Bat, Crab, AB=CD etc.
   รูปแบบที่เห็นดังภาพข้างบนนั้นเป็นรูปแบบ Bat (Bullish Bat) จริงๆ ถ้าดูแล้วเราจะใช้วิธีการเทรดแบบเบรคเอ๊าท์โดยใช้รูปแบบมังกรก็ได้ ภาพที่เห็นจะเป็นภาพที่โปรแกรมวาดออกมาซึ่ง ก็เป็นฟรีโปรแกรมที่ไปหาโหลดได้ตามเว็บที่เกี่ยวกับ  Harmonics pattern
   ตัวอย่างรูปแบบเบื้องต้นของ ฮาร์โมนิคส์ 

GU On 28 Dec. 2012

รูปแบบ มังกร (ทั้งมังกรเล็ก, มังกรน้อย, มังกรใหญ่)

สำหรับคู่ GBP/USD;  G/U จากรูปแบบมังกรและใส่ฟิโบฯ เข้าไป เป้าเล็กๆ หลังปีใหม่ไปก็น่าจะแถวๆ ระดับฟิโบ 168.1%  1.62856 น่าจะพอได้ประมาณ 128 จุด จากจุดปัจจุบัน 1.61562 ลองดูหลังปีใหม่ 2556
หรือ Year 2013 จะเป็นอย่างไร... ปีใหม่ ขอให้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง โรคภัยไขเจ็บมลายสูญ ให้ได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จสมปราถนา ให้ประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งการเรียน การงาน ชีวิตส่วนตัวและครอบครัว ร่ำรวยเงินทอง ปลอดภัย ได้ใช้เงินทองตามใจทุกประการเทอญ... เจอกันหลังปีใหม่ครับ

EU on 27 Dec 2012 Time frame 30M

เป็นกราฟแท่งเทียนและกราฟเส้น ของ E/U ในวันที่ 27 Dec. 2012 ช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่มถึง เที่ยงคืน
กราฟไปถึงจุดสูงสุดแล้วทิ้งตัวลงมา และทำรูปแบบ Head and Shoulder แบบกลับหัว ดูจากกราฟเส้นจะเห็นได้ชัดเจน
ตรงนี้ถือเป็นช่วงที่คนกำลังเปิด ชอร์ท(เซล)กันเยอะมากเพราะดูเหมือนกราฟจะลง แต่สุดท้ายแล้วมันยังไม่ลงไปเลยมีการทำรูปแบบ Head and Shoulder กลับหัวอย่างที่เห็น รูปนี้จะเกิดขึ้นบ่อย จะเห็นได้ดีในช่วง time frame 30Min
และเปลี่ยนมาเป็นกราฟเส้น แบบนี้สามารถทำเงินได้ทั้งสองทาง สังเกตดีๆ ตรงไหนควรเซล ตรงไหนควรออกและเข้าใหม่ ได้เงินเยอะคร้บรูปแบบนี้

ทำไมต้องมี stop loss order

คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากนะครับสำหรับเรื่อง stop loss เอาภาพขำๆ มาให้ดู จากเว็บ http://www.forexpeacearmy.com

เครื่องวัดความแข็งของคู่เงินเมื่อเทียบกับคู่เงินอื่นๆ

Currency Correlation provided by OANDA

ให้คลิ๊กที่นี่ >>> Currency Correlation provided by OANDA

การอ่านค่า Correlation จะอ่านอย่างไร
ใน Correlation Coefficient ระหว่างสองคู่เงินใดๆ (ซึงอยู่ในแนวนอนของตาราง) กับ ช่วงเวลาที่สัมพันธ์กันเช่นในในช่วง 1 ชั่วโมง,1วัน, 1 สัปดาห์ เป็นต้น จะมีวงกลมสีน้ำเงินแลวงกลมสีแดงอยู่(หรืออาจแสดงเป็นตัวเลขแล้วแต่ว่าเราจะเลือกให้แสดงแบบไหน) และจะมีคอลัมน์หนึ่งในตารางซึ่งเป็นคู่เงินหลักที่จะให้เปรียบเทียบจะว่าง
การอ่านคือ
1. ถ้าสมมติเราจะดูคู่เงินอื่นๆ เทียบกับคู่เงิน EUR/USD ว่าเมื่อคู่เงิน EUR/USD แข็งค่าขึ้นจะมีคู่เงินใดบ้างที่แข็งค่าขึ้นตาม และมีคู่เงินใดบ้างที่อ่อนค่าลงหรือมีทิศทางวิ่งตรงกันข้ามกับ EUR/USD  ในทางกลับกันถ้าคู่เงิน EUR/USD อ่อนค่าลงแล้วจะมีคู่ใดบ้างที่อ่อนค่าลงตาม และมีคู่ไหนบ้างแข็งค่าขึ้น
โดยที่ถ้าการอ่อนแข็งมีทิศทางไปในแนวเดียวกับคู่เงิน EUR/USD ในช่องตารางจะมีสีแดง ถ้าอ่อนแข็งไปในทิศทางตรงกันข้ามกับ EUR/USD จะมีสีน้ำเงิน
2. ถ้าต้องการจะดูคู่เงินเป็นหลักอื่นนอกจาก EUR/USD  ก็ให้เอาเมาส์ไปคลิ๊กที่แท็บคู่เงินที่อยู่ด้านช่องบนตาราง คอลัมน์ของคู่เงินนั้นๆ ก็จะว่างและในแต่ละช่องตารางก็จะมีสีเปลี่ยนไป
3.ขนาดของวงกลมจะเป็นตัวบ่งบอกถึงความแรงของคู่เงินอื่นๆที่จะเคลื่อนที่ตามหรือตรงกันข้ามกับคู่เงินที่เราเลือก
4.หรือจะดูขนาดความแรงเป็นตัวเลขเลยก็ได้โดยไปคลิ๊กเลือกเปลี่ยนจาก "Bubble" เป็น "Table" หรือ จะเอาแบบ "Heatmap" ก็ได้

How to Read the Table

Each cell of the table shows the correlation coefficient between the two currency pairs (horizontal headings) over the corresponding time period (vertical headings). The following categories indicate a quick way of interpreting the table values. Note that a negative correlation means the two currency pairs correlate in the opposite directions (e.g. when the price for one goes up, the other one goes down and vice versa)

• 0.0 to 0.2 Very weak to negligible correlation
• 0.2 to 0.4 Weak, low correlation (not very significant)
• 0.4 to 0.7 Moderate correlation
• 0.7 to 0.9 Strong, high correlation
• 0.9 to 1.0 Very strong correlation

เครื่องวัดความแข็งของค่าเงิน

เครื่องมือที่จะช่วยให้เรามองเห็นภาพโดยรวมว่าค่าเงินตัวไหนแข็งที่สุดอ่อนที่สุดใจ 8 สกุลเงิน จะทำให้ทราบเทรนด์ในแต่ละช่วงเวลาของแต่ละคู่เงิน โดยถ้าต้องการทราบว่าช่วงกี่วัน (Select time period) นับจากวันนี้ย้อนหลังไป ค่าเงินใดแข็งอ่อนอย่างไรก็ให้ใส่ช่วงเวลาลงไปใน Relative Currency Strength Calculator ข้างล่างนี้แล้ว หลังจากนั้นก็กดปุ่ม "Show"